HTTPS คืออะไร: คู่มือความปลอดภัยเว็บไซต์และประโยชน์ต่อ SEO

ความหมาย-HTTPS-คือ

ประเด็นสำคัญของ HTTPS คืออะไร

HTTPS คืออะไร? คำตอบคือสิ่งสำคัญของการสร้างเว็บไซต์ที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ การมีข้อมูลส่วนบุคคลพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยทางออนไลน์เป็นเรื่องสำคัญ แต่รายละเอียดเกี่ยวกับ HTTPS คืออะไรกันแน่? และทำไมถึงมีความสำคัญไม่เพียงแต่ในแง่ของความปลอดภัย แต่ยังส่งผลต่อการทำ SEO และประสบการณ์ผู้ใช้ด้วย?

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ HTTPS อย่างละเอียด ตั้งแต่:

  • ความหมาย และวิธีการทำงาน 
  • ประโยชน์ต่อความปลอดภัยและ SEO 
  • ขั้นตอนการย้ายเว็บไซต์จาก HTTP เป็น HTTPS 
  • เคล็ดลับในการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการย้าย

ความหมาย HTTPS คืออะไร

https คือ

HTTPS ย่อมาจาก HyperText Transfer Protocol Secure ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่ใช้สำหรับการสื่อสารระหว่างเบราว์เซอร์ของผู้ใช้และเซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์อย่างปลอดภัย โดยการทำงานของ HTTPS จะแตกต่างจาก HTTP แบบเดิมที่ไม่มีระบบการเข้ารหัสข้อมูล นั่นหมายความว่า หากเว็บไซต์ของคุณยังใช้ HTTP อยู่ ข้อมูลที่ส่งระหว่างผู้ใช้และเซิร์ฟเวอร์อาจถูกแฮ็กหรือดักจับได้ง่าย

สิ่งที่ทำให้ ก็คือการใช้ SSL/TLS Certificate เพื่อสร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย โดยเมื่อมีการเชื่อมต่อ HTTPS เบราว์เซอร์และเซิร์ฟเวอร์จะทำการ “Handshake” เพื่อยืนยันความถูกต้องของ SSL/TLS Certificate และสร้างการเข้ารหัสข้อมูลก่อนส่ง ซึ่งกระบวนการนี้ช่วยป้องกันไม่ให้ข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลบัตรเครดิต ถูกโจรกรรมระหว่างทาง

นอกจากนี้ HTTPS ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณ เนื่องจากผู้ใช้จะเห็นสัญลักษณ์ Padlock Icon อยู่ข้างๆ URL ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเว็บไซต์นี้ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ในทางกลับกัน หากเว็บไซต์ยังใช้ HTTP ผู้ใช้จะเห็นคำว่า “ไม่ปลอดภัย” (Not Secure) แสดงขึ้นมา ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ไม่กล้าใช้งานเว็บไซต์ของคุณ

สรุปแล้ว HTTPS ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสบการณ์ผู้ใช้และประสิทธิภาพของเว็บไซต์ในแง่ของ SEO ด้วย ซึ่งเราจะพูดถึงรายละเอียดเหล่านี้ในส่วนต่อไป

HTTPS ทำงานอย่างไร?

หลังจากที่เราเข้าใจแล้วว่า HTTPS คืออะไร และเหตุผลที่มันสำคัญต่อความปลอดภัยและการทำ SEO ต่อไปเราจะมาดูกันว่า HTTPS ทำงานอย่างไร เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าทำไมมันถึงปลอดภัยกว่า HTTP แบบเดิม โดยกระบวนการทำงานของ HTTPS เริ่มต้นจากการที่เบราว์เซอร์ของผู้ใช้พยายามเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS ในขั้นตอนนี้ เซิร์ฟเวอร์จะส่ง SSL/TLS Certificate กลับมาให้เบราว์เซอร์เพื่อยืนยันความถูกต้องของเว็บไซต์ ซึ่ง Certificate นี้จะถูกตรวจสอบโดยเบราว์เซอร์ว่าออกให้โดยองค์กรที่เชื่อถือได้หรือไม่

เมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้น เบราว์เซอร์และเซิร์ฟเวอร์จะทำการ “Handshake” เพื่อสร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัย โดยในกระบวนการนี้ ทั้งสองฝ่ายจะตกลงใช้กุญแจเข้ารหัส (Encryption Key) ร่วมกัน ซึ่งกุญแจนี้จะถูกใช้เพื่อเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดที่ส่งระหว่างกัน ทำให้ข้อมูลไม่สามารถถูกอ่านหรือดักจับได้แม้จะมีใครพยายามแฮ็กเข้ามา ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังกรอกข้อมูลบัตรเครดิตบนเว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS ข้อมูลนี้จะถูกแปลงเป็นรหัสก่อนส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ และจะถูกถอดรหัสอีกครั้งเมื่อถึงปลายทาง นั่นหมายความว่า แม้จะมีใครพยายามดักจับข้อมูลระหว่างทาง พวกเขาก็จะเห็นเพียงข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสซึ่งไม่สามารถเข้าใจได้

นอกจากนี้ HTTPS ยังใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Perfect Forward Secrecy (PFS) ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น โดย PFS จะสร้างกุญแจเข้ารหัสใหม่ทุกครั้งที่มีการเชื่อมต่อ ทำให้แม้จะมีใครได้กุญแจเก่าไป ก็ไม่สามารถถอดรหัสข้อมูลในอนาคตได้

ประโยชน์ HTTPS คืออะไร – ความปลอดภัยเว็บไซต์

ทำไม https สำคัญสำหรับความปลอดภัย

เมื่อเราเข้าใจกระบวนการทำงานของ HTTPS แล้ว ต่อไปเราจะมาดูกันว่า HTTPS ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์ของคุณได้อย่างไร และเหตุใดมันจึงกลายเป็นมาตรฐานที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้

หนึ่งในประโยชน์หลักของ HTTPS คือ การป้องกันการโจรกรรมข้อมูล ด้วยการเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดที่ส่งระหว่างผู้ใช้และเซิร์ฟเวอร์ ทำให้แฮ็กเกอร์ไม่สามารถดักจับหรืออ่านข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน, ข้อมูลบัตรเครดิต, หรือข้อมูลส่วนบุคคลได้ แม้จะพยายามแฮ็กเข้ามาก็ตาม

ถัดมา ช่วยป้องกันการโจมตีแบบ Man-in-the-Middle (MITM) เป็นเทคนิคที่แฮ็กเกอร์พยายามแทรกตัวเข้าไประหว่างการสื่อสารของผู้ใช้และเซิร์ฟเวอร์เพื่อดักจับข้อมูล แต่ด้วย HTTPS การเชื่อมต่อจะถูกเข้ารหัส ทำให้แฮ็กเกอร์ไม่สามารถอ่านหรือแก้ไขข้อมูลได้แม้จะดักจับได้ อีกทั้ง เว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS จะแสดงสัญลักษณ์ Padlock Icon อยู่ข้างๆ URL ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเว็บไซต์นี้ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ในทางกลับกัน หากเว็บไซต์ยังใช้ HTTP ผู้ใช้จะเห็นคำว่า “ไม่ปลอดภัย” (Not Secure) แสดงขึ้นมา ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ไม่กล้าใช้งานเว็บไซต์ของคุณ

เนื่องจาก SSL/TLS Certificate จะยืนยันว่าเว็บไซต์นั้นเป็นของจริงและไม่ถูกปลอมแปลง โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการเงินหรือข้อมูลส่วนตัว การใช้ HTTPS จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ และยังช่วยปรับปรุงความปลอดภัยในระยะยาว เทคโนโลยีที่ใช้ใน HTTPS เช่น Perfect Forward Secrecy (PFS) และการอัปเดต SSL/TLS Certificate อย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีความปลอดภัยในระยะยาว และพร้อมรับมือกับภัยคุกคามใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ความแตกต่างระหว่าง HTTP และ HTTPS คืออะไร

ความแตกต่าง http กับ https

HTTP vs HTTPS แตกต่างกันอย่างไร?
ความแตกต่างหลักระหว่าง HTTP และ HTTPS คือตัวอักษรเดียว นั่นคือตัว S ที่ย่อมาจาก Secure แต่ตัวอักษรนี้มีความสำคัญมาก เพราะ HTTPS ใช้ SSL/TLS Certificate เพื่อเข้ารหัสข้อมูล ทำให้ทุกอย่างที่ส่งระหว่างผู้ใช้และเว็บไซต์ของคุณปลอดภัยและเป็นส่วนตัว หากไม่มี HTTPS ข้อมูลจะถูกส่งผ่านอินเทอร์เน็ตในรูปแบบข้อความธรรมดา (Plain Text) ซึ่งแฮ็กเกอร์สามารถดักจับได้ง่าย

ตั้งแต่ Chrome 68 ออกมาในปี 2018 Google ได้เริ่มทำเครื่องหมายเว็บไซต์ที่ใช้ HTTP ว่า ไม่ปลอดภัย (Not Secure) ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการให้ผู้ใช้เห็น เพราะหากเว็บไซต์ของคุณแสดงคำเตือนความปลอดภัย ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะไม่กล้าใช้งานต่อ

แต่ HTTPS ไม่ได้เกี่ยวกับความปลอดภัยเพียงอย่างเดียว มันยังเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือด้วย SSL Certificate จะยืนยันความเป็นเจ้าของเว็บไซต์ ช่วยป้องกันผู้ใช้จาก phishing scams และเว็บไซต์ปลอม บางคนอาจกังวลว่า HTTPS จะทำให้เว็บไซต์ช้าลง แต่ความเชื่อนี้ล้าสมัยแล้ว เพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง HTTP/2 ทำให้เว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS โหลดได้เร็วเท่าๆ กับเว็บไซต์ที่ใช้ HTTP หรืออาจเร็วกว่าเสียด้วยซ้ำ

อีกประเด็นคือค่าใช้จ่าย ในอดีต SSL Certificate มีราคาแพง แต่ปัจจุบันคุณสามารถซื้อได้ในราคาเพียง $10 ต่อปี หรือแม้แต่ได้ฟรีผ่านบริการเช่น Let’s Encrypt และคุณไม่จำเป็นต้องมี dedicated IP สำหรับแต่ละเว็บไซต์อีกต่อไป เพราะเทคโนโลยี SNI (Server Name Indication) ทำให้หลายโดเมนสามารถใช้ IP เดียวกันได้

ประโยชน์ของ HTTPS คืออะไร สำหรับการทำ SEO

ผลกระทบความปลอดภัยเว็บไซต์กับ seo

หลังจากที่เราเข้าใจความสำคัญของ HTTPS ในแง่ของความปลอดภัยแล้ว ต่อไปเราจะมาดูกันว่า HTTPS ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ SEO ได้อย่างไร และเหตุใดมันจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่นักการตลาดและเจ้าของเว็บไซต์ไม่ควรมองข้าม

1. Google ให้ความสำคัญกับ HTTPS

ตั้งแต่ปี 2014 Google ได้ประกาศว่า HTTPS เป็นปัจจัยหนึ่งในการจัดอันดับเว็บไซต์ (Ranking Factor) ซึ่งหมายความว่าเว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS จะมีโอกาสติดอันดับบนผลการค้นหาสูงกว่าเว็บไซต์ที่ยังใช้ HTTP นี่คือเหตุผลที่เว็บไซต์ยุคใหม่ควรย้ายมาใช้ HTTPS เพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันทางดิจิทัล

2. ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ (User Experience)

เว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS จะแสดงสัญลักษณ์ Padlock Icon อยู่ข้างๆ URL ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเว็บไซต์นี้ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ในทางกลับกัน หากเว็บไซต์ยังใช้ HTTP ผู้ใช้จะเห็นคำว่า “ไม่ปลอดภัย” (Not Secure) แสดงขึ้นมา ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ไม่กล้าใช้งานเว็บไซต์ของคุณ การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้เช่นนี้ช่วยลดอัตราการย้อนกลับ (Bounce Rate) และเพิ่มเวลาที่ใช้บนเว็บไซต์ (Dwell Time) ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อ SEO

3. เพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์

เว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS คือ การสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้มากขึ้น โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินหรือการกรอกข้อมูลส่วนตัว ซึ่งส่งผลให้ผู้ใช้มีแนวโน้มที่จะกลับมาใช้บริการซ้ำและแนะนำเว็บไซต์ของคุณให้กับผู้อื่น

4. ป้องกันการสูญเสีย Traffic จากคำเตือนความปลอดภัย

เบราว์เซอร์สมัยใหม่เช่น Google Chrome จะแสดงคำเตือน “ไม่ปลอดภัย” (Not Secure) สำหรับเว็บไซต์ที่ยังใช้ HTTP โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการกรอกแบบฟอร์มหรือการชำระเงิน ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงการเข้าเว็บไซต์ของคุณ การย้ายมาใช้ HTTPS จึงช่วยป้องกันการสูญเสีย Traffic และรักษาผู้ใช้ไว้ได้

อ่านเช็คลิสต์การทำ SEO ล่าสุด เพื่อครองอับดับบน Google

วิธีย้ายเว็บไซต์จาก HTTP เป็น HTTPS

หลังจากที่เราเข้าใจถึงประโยชน์ของ HTTPS ทั้งในแง่ความปลอดภัยและ SEO แล้ว ต่อไปเราจะมาดูขั้นตอนการย้ายเว็บไซต์จาก HTTP เป็น HTTPS อย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงโดยไม่เจอปัญหายุ่งยาก

ซื้อและติดตั้ง SSL/TLS Certificat

ขั้นตอนแรกในการย้ายเว็บไซต์เป็น HTTPS คือ การซื้อและติดตั้ง SSL/TLS Certificate ซึ่งคุณสามารถซื้อได้จากผู้ให้บริการ Certificate Authority (CA) ที่เชื่อถือได้ เช่น DigiCert, Let’s Encrypt, หรือ Comodo หลังจากซื้อแล้ว คุณจะต้องติดตั้ง Certificate บนเซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์ ซึ่งขั้นตอนนี้สามารถทำได้ผ่าน Control Panel ของโฮสติ้งหรือขอความช่วยเหลือจากทีมเทคนิค

เมื่อติดตั้ง SSL/TLS Certificate แล้ว คุณจะต้องตรวจสอบและเปลี่ยนลิงก์ภายในเว็บไซต์ (Internal Links) และลิงก์ของทรัพยากรต่างๆ (Resource Links) เช่น ภาพ, CSS, และ JavaScript ให้เป็น HTTPS ทั้งหมด เพื่อป้องกันปัญหา Mixed Content ที่อาจทำให้เว็บไซต์ไม่ปลอดภัย

ตั้งค่า Redirect 301 จาก HTTP เป็น HTTPS

เพื่อให้ผู้ใช้และ Search Engine ถูกนำทางไปยังเว็บไซต์เวอร์ชัน HTTPS คุณจะต้องตั้งค่า Redirect 301 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนเส้นทางถาวรจาก HTTP เป็น HTTPS โดยสามารถทำได้ผ่านการแก้ไขไฟล์ .htaccess (สำหรับเซิร์ฟเวอร์ Apache) หรือการตั้งค่าในเซิร์ฟเวอร์โดยตรง

ความเข้าใจผิดทั่วไปเกี่ยวกับ HTTPS คืออะไร

มีความเข้าใจผิดหลายประการเกี่ยวกับ HTTPS ซึ่งทำให้บางเว็บไซต์ยังลังเลที่จะใช้งาน ต่อไปนี้คือความเชื่อผิด ๆ ที่พบบ่อย และข้อเท็จจริงที่ควรรู้

ประการแรก HTTPS ทำให้เว็บไซต์โหลดช้าลง หลายคนเชื่อว่า HTTPS ทำให้เว็บไซต์ช้าลง แต่ในความเป็นจริง เทคโนโลยเว็บสมัยใหม่ได้รับการปรับปรุงให้ HTTPS ทำงานได้เร็วพอ ๆ กับ HTTP ปัจจุบัน โปรโตคอลอย่าง HTTP/2 และ TLS 1.3 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการโหลดหน้าเว็บ ทำให้ความแตกต่างของความเร็วแทบไม่เป็นปัญหา

ถัดมา HTTPS จำเป็นเฉพาะเว็บไซต์ที่รับชำระเงินหรือข้อมูลสำคัญ อีกหนึ่งความเข้าใจผิดคือ HTTPS ใช้เฉพาะกับเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางการเงินหรือข้อมูลที่เป็นความลับ ความจริงแล้ว HTTPS มีความสำคัญกับทุกเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นบล็อกส่วนตัว หรือเว็บไซต์ขนาดเล็ก เพราะช่วยป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ และเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์

รวมถึง ค่าใช้จ่ายเป็นอุปสรรคในการใช้ HTTPS บางคนคิดว่าการติดตั้ง HTTPS มีค่าใช้จ่ายสูง แต่ปัจจุบันมี ตัวเลือกที่เข้าถึงได้ง่ายและราคาประหยัด เช่น ใบรับรอง SSL ฟรีจาก Let’s Encrypt นอกจากนี้ ผลลัพธ์ระยะยาวของ HTTPS คุ้มค่ามากกว่าการลงทุนเริ่มต้น เพราะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์

สุดท้าย Google ให้ความสำคัญกับ HTTPS เป็นหนึ่งในปัจจัยจัดอันดับ เว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS มีโอกาสได้รับการจัดอันดับที่ดีกว่าในผลการค้นหา ดังนั้น นอกจากจะช่วยปกป้องข้อมูลแล้ว HTTPS ยังช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสถูกค้นพบมากขึ้นอีกด้วย

อนาคตของ HTTPS คืออะไร

อนาคตกับความปลอดภัยเว็บไซต์

แนวโน้มของการใช้ HTTPS อย่างแพร่หลายกำลังกลายเป็นมาตรฐานสำคัญสำหรับการรักษาความปลอดภัยของเว็บไซต์ เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาอย่างต่อเนื่อง HTTPS จะมีบทบาทที่สำคัญยิ่งขึ้น ในการปกป้องการสื่อสารออนไลน์และข้อมูลที่สำคัญ

เทคโนโลยีใหม่ เช่น Post-Quantum Cryptography กำลังถูกพัฒนาเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการประมวลผลควอนตัม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบการเข้ารหัสแบบดั้งเดิม เมื่อเทคโนโลยีเหล่านี้ก้าวหน้า โปรโตคอลความปลอดภัยบนเว็บจะได้รับการเสริมความแข็งแกร่ง เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ดังนั้น การติดตามแนวทางความปลอดภัยล่าสุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าเว็บไซต์ของคุณปลอดภัยและมีความน่าเชื่อถือในโลกออนไลน์

ในปี 2024 เว็บไซต์มากกว่า 85% ใช้ HTTPS เพื่อรักษาความปลอดภัยการเชื่อมต่อ

บทสรุป: HTTPS คือ การเพิ่มความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์ของคุณ

โดยสรุป HTTPS ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์ของคุณ แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อการทำ SEO และประสบการณ์ผู้ใช้ ด้วยการเข้ารหัสข้อมูล ช่วยป้องกันการโจรกรรมข้อมูลและการโจมตีทางไซเบอร์ ทำให้ผู้ใช้รู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่อเห็นสัญลักษณ์ Padlock Icon และข้อความ “ปลอดภัย” ในเบราว์เซอร์ นอกจากนี้ Google ยังให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS ในการจัดอันดับ ทำให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติดอันดับสูงขึ้นและดึงดูด Traffic ได้มากขึ้น

ข้อควรระวังอย่างแรกในการใช้ HTTPS คือ การตรวจสอบ SSL/TLS Certificate อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่า Certificate ไม่หมดอายุและติดตั้งอย่างถูกต้อง นอกจากนี้คุณต้องหลีกเลี่ยงปัญหา Mixed Content โดยตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกส่วนของเว็บไซต์โหลดผ่าน HTTPS เพื่อป้องกันคำเตือนความปลอดภัย

หลังการย้ายเว็บไซต์เป็น HTTPS คุณควรติดตามการจัดอันดับและ Traffic อย่างใกล้ชิดเพื่อตรวจสอบว่าทุกอย่างทำงานได้ตามปกติ บางครั้งอาจเกิด Ranking Fluctuations ในช่วงแรกเนื่องจาก Google กำลังทำการ Index ใหม่ แต่ปัญหานี้จะค่อยๆ หายไปหากคุณตั้งค่า Redirect 301 และอัปเดต Sitemap อย่างถูกต้อง

อีกประเด็นที่สำคัญคือความเร็วเว็บไซต์ การใช้ HTTPS อาจทำให้เว็บไซต์โหลดช้าลงเล็กน้อย ดังนั้นคุณควรทดสอบความเร็วและปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีเช่น CDN หรือ HTTP/2 เพื่อให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

คำแนะนำเพิ่มเติม หากคุณใช้ CMS เช่น WordPress ปลั๊กอินเช่น Really Simple SSL สามารถช่วยให้การย้ายเว็บไซต์เป็น HTTPS ง่ายขึ้น โดยจัดการการเปลี่ยนลิงก์และแก้ไขปัญหา Mixed Content ให้อัตโนมัติ สำหรับเว็บไซต์ขนาดใหญ่ ควรวางแผนการย้ายอย่างรอบคอบและทดสอบทุกขั้นตอนเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ HTTPS คืออะไร

HTTPS กับ www แตกต่างกันอย่างไร?

ความแตกต่างหลักระหว่าง HTTPS และ www คือ www เป็น sub-domain ที่ช่วยระบุเว็บไซต์ของคุณ ในขณะที่ HTTPS เป็นโปรโตคอลที่ใช้สำหรับการสื่อสารระหว่างเบราว์เซอร์และเซิร์ฟเวอร์อย่างปลอดภัย โดยการเข้ารหัสข้อมูล การเข้าใจความแตกต่างนี้สำคัญมากสำหรับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของเว็บไซต์

HTTPS ปลอดภัยหรือไม่?

ปลอดภัยแน่นอน เพราะมันใช้การเข้ารหัสข้อมูลและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ส่งระหว่างเบราว์เซอร์และเว็บไซต์ ทำให้ปลอดภัยกว่า HTTP แบบเดิม ดังนั้น หากคุณต้องการความปลอดภัยในการท่องเว็บ ควรเลือกเว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS

HTTPS ดีหรือไม่ดี?

ถือว่าดีมาก เพราะมันให้การเข้ารหัสข้อมูลและความเป็นส่วนตัวผ่านเทคโนโลยี TLS ซึ่งปลอดภัยกว่า HTTP มาก อย่างไรก็ตาม HTTPS ไม่ได้การันตีว่าเว็บไซต์นั้นถูกกฎหมายหรือไม่ ดังนั้นคุณควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ด้วย

HTTPS ย่อมาจากอะไร?

ย่อมาจาก Hypertext Transfer Protocol Secure ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่ช่วยให้การสื่อสารระหว่างเบราว์เซอร์และเซิร์ฟเวอร์ปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสข้อมูล

HTTPS ทำงานอย่างไร?

ทำงานโดยใช้ SSL/TLS Certificate เพื่อสร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยผ่านกระบวนการ Handshake ซึ่งใช้กุญแจสาธารณะ (Public Key) และกุญแจส่วนตัว (Private Key) เพื่อเข้ารหัสข้อมูล ทำให้ข้อมูลที่ส่งระหว่างผู้ใช้และเซิร์ฟเวอร์ไม่สามารถถูกอ่านหรือดักจับได้

พร้อมที่จะอัปเกรดความปลอดภัยและประสิทธิภาพของเว็บไซต์ของคุณแล้วหรือยัง? ติดต่อทีมงานบริการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ของเราตอนนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นและปลอดภัยด้วย HTTPS